-
Notifications
You must be signed in to change notification settings - Fork 0
/
Copy pathui.R
212 lines (186 loc) · 26.7 KB
/
ui.R
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
#
# This is the user-interface definition of a Shiny web application. You can
# run the application by clicking 'Run App' above.
#
# Find out more about building applications with Shiny here:
#
# http://shiny.rstudio.com/
#
library(shiny)
library(plotly)
library(DT)
library(shinycssloaders)
library(shinyjs)
library(shinybusy)
# Define UI for application that draws a histogram
shinyUI(fluidPage(
useShinyjs(),
tags$head(
tags$meta(charset="UTF-8"),
tags$link(rel = "stylesheet", type = "text/css", href = "style.css")
),
tags$div(class="header bg-primary",
tags$h1(class="text-center","Monitoring Dog Sterilization Program")
),
tabsetPanel(
tabPanel("Introduction",
tags$h2("ข้อมูลทั่วไป"),
tags$h3("โครงการหลัก แบบจำลองการระบาดและการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัข ในประเทศไทย (Epidemic and mitigation modeling of canine rabies outbreaks in Thailand)"),
tags$h2("ที่มาและความสำคัญ (Importance of project)"),
tags$p("โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน ซึ่งการติดเชื้อจะนำไปสู่การเสียชีวิต โดยมีอัตราการตาย 100% จากข้อมูลในปี พ.ศ. 2560-2561 ประเทศไทยเกิดการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าและมีผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเกิดการระบาดทั้งในคนและสัตว์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดเชื้อในสุนัขมีอัตราการเกิดโรคสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงปีก่อนหน้า ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมการระบาดของโรคให้ลดลง ขณะเดียวกันก็เน้นการบูรณาการความรู้และประสบการณ์จากหลายภาคส่วน ตั้งเป้าหมายที่จะกำจัดโรคนี้ให้หมดไปจากประเทศไทยในอนาคต อย่างไรก็ตามสุนัขเป็นสัตว์พาหะที่สำคัญที่สุดในการแพร่กระจายเชื้อไวรัสนี้มายังคน ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบและพลวัตของการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัขของประเทศไทยยังมีน้อยมาก การสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับแบบจำลองและการศึกษาวิจัยเชิงพื้นที่ทางระบาดวิทยาที่เกี่ยวข้องกับโรคพิษสุนัขบ้า จะช่วยให้การป้องกันและควบคุมโรคเป็นไปอย่างตรงจุดและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการควบคุมป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งการจะสร้างความเข้าใจในเรื่องของพลวัตการระบาดของโรคได้นั้น จะต้องมีองค์ความรู้หลายแขนงที่เกี่ยวข้อง เช่น ความเข้าใจเกี่ยวกับพลวัตประชากร รูปแบบการเคลื่อนที่ของสุนัข รูปแบบและโอกาสของการแพร่กระจายของโรคพิษสุนัขบ้าบนพื้นฐานทางด้านระบาดวิทยา เหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจและสร้างองค์ความรู้เพื่อใช้ในการสร้างแบบจำลองการระบาดและแบบจำลองเชิงนโยบายที่เหมาะสมกับสภาวะและสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงได้
"),
tags$h3("โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies)"),
tags$a(href="http://r36.ddc.moph.go.th/r36/content/index/1",
"ที่มา: สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข"
),
tags$p("ชาวบ้านทั่วไปรู้จักกันว่า โรคกลัวน้ำ เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ เรบี่ส์ไวรัส (Rabies Virus) มีรูปร่างคล้ายกระสุนปืน เมื่อเชื้อนี้เข้าสู่ร่างกายคนหรือสัตว์แล้วจะเดินทางไปตามเส้นประสาทเข้าสู่สมอง ที่สำคัญ เมื่อเกิดอาการขึ้นแล้วไม่สามารถรักษาให้หายได้ ต้องเสียชีวิตทุกราย แต่โรคนี้ป้องกันได้และสามารถทำให้หมดไปจากคนและสัตว์เลี้ยง ในหลายประเทศยังมีผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ควบคุมโรคในสุนัขไม่ได้ ในปี พ.ศ. 2549 (ค.ศ.2006) กลุ่มสหวิชาชีพทั่วโรคได้ร่วมกันก่อตั้งองค์กรเพื่อการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า (Global Alliance for Rabies Control) ซึ่งต่อมาได้มีการกำหนดให้มีวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลกขึ้นในเดือนกันยายน เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัวต่อการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า มีความรู้ความเข้าใจในการเลี้ยงสุนัขและป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกและองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศร่วมสนับสนุน พร้อมใจกันกำหนดให้วันที่ 28 กันยายนของทุกปี เป็นวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก ชื่อของโรคทำให้เข้าใจกันผิดคิดว่าโรคนี้เกิดกับสุนัขเท่านั้น แท้ที่จริงแล้วโรคนี้เกิดกับสัตว์เลือดอุ่นด้วย โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด เช่น แมว ชะนี ลิง กระรอก กระแต หนู ค้างคาว แม้แต่สัตว์เศรษฐกิจอย่าง วัว ควาย ม้า สุกร พบในตัวที่มีประวัติเคยถูกสุนัขบ้ากัดมาก่อน หรือสัตว์ป่าในเมืองไทยพบว่า สุนัขเป็นตัวแพร่เชื้อที่สำคัญมากที่สุด กว่า 95% ของผู้เสียชีวิตมีสาเหตุมาจากสุนัข รองมาคือ แมว"
),
tags$h3("การติดต่อ"),
tags$p("สุนัขและแมวที่ป่วยด้วยโรคพิษสุนัขบ้า สามารถแพร่เชื้อได้ทางน้ำลาย เพราะเชื้อจะออกมาในน้ำลายเป็นระยะตั้งแต่ 1 – 7 วันก่อนแสดงอาการจนกระทั่งตาย คนเราจะติดเชื้อนี้ก็ต่อเมื่อ"
),
tags$ol(type = "1",
tags$li("ถูกสัตว์ที่เป็นโรคนี้กัดหรือข่วน"),
tags$li("ถูกสัตว์ที่เป็นโรคนี้เลียหรือน้ำลายสัตว์กระเด็นเข้าแผลรอยขีดข่วนหรือ เยื่อบุเมือกบุตา จมูก ปาก (ถ้าน้ำลายถูกผิวหนังปกติ ไม่มีรอยข่วนหรือบาดแผล ไม่มีโอกาสติดโรค)"),
tags$li("การติดต่อโดยการหายใจ มีโอกาสน้อยมาก ยกเว้นมีจำนวนไวรัสในอากาศเป็นจำนวนมาก เช่น ในถ้ำค้างคาว"),
tags$li("การติดต่อโดยการกินเกิดขึ้นได้ยาก ไม่เคยมีรายงานตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับการติดต่อจากคนไปสู่คน ในธรรมชาติก็ไม่เคยมีรายงานเช่นกัน"),
),
tags$h3("ระยะฟักตัวของโรค"),
tags$p(""),
tags$ol(type = "1",
tags$li("จำนวนเชื้อที่เข้าไป (บาดแผลใหญ่ ลึกหรือมีหลายแผล มีโอกาสที่เชื้อจะเข้าไปได้มาก)"),
tags$li("ตำแหน่งที่เชื้อเข้าไป (ถ้าอยู่ใกล้สมองมากเชื้อก็จะเดินทางไปถึงสมองได้เร็วหรืออยู่ในที่มีปลายประสาทมาก เช่น มือหรือเท้า เชื้อก็จะเข้าสู่ระบบประสาทได้ง่าย)"),
tags$li("อายุคนที่ถูกกัด (เด็กและคนชราจะมีความต้านทานของโรคต่ำกว่าคนหนุ่มสาว)"),
tags$li("สายพันธุ์ของเชื้อ ถ้าเป็นสายพันธุ์จากสัตว์ป่า จะมีอาการรุนแรงกว่าสายพันธุ์จากสุนัข"),
),
tags$h3("อาการที่พบในสัตว์"),
tags$p("ส่วนใหญ่สุนัข แมว วัว ควาย มีระยะพักตัวไม่เกิน 6 เดือน"),
tags$p("ระยะเริ่มแรก มีอาการประมาณ 2 – 3 วัน โดยสุนัขจะมีอารมณ์และอุปนิสัยเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น สุนัขที่ชอบคลุกคลีกับเจ้าของ จะปลีกตัวออกไปหลบซุกตัวเงียบๆ มีอารมณ์หงุดหงิด ตัวที่เคยขลาดกลัวคนก็จะกลับมาคลอเคลีย เริ่มมีไข้เล็กน้อย ม่านตาขยายกว้างกว่าปกติ การตอบสนองต่อแสงของตาลดลง กินข้าวกินน้ำน้อยลง ลักษณะการเคี้ยวหรือกลืนผิดไป"),
tags$p("ระยะตื่นเต้น คือ เริ่มมีอาการทางปราสาท สุนัขจะกระวนกระวาย ตื่นเต้น หงุดหงิด ไม่อยู่นิ่ง กัดแทะสิ่งของ สิ่งแปลกปลอม กัดทุกสิ่งไม่เลือกหน้า ถ้ากักขังหรือล่ามไว้จะกัดกรงหรือโซ่จนเลือดกบปาก โดยไม่เจ็บปวด เสียงเห่าหอนจะเปลี่ยนไป ตัวแข็ง"),
tags$p("ระยะอัมพาต สุนัขจะมีคางห้อยตก ลิ้นมีสีแดงคล้ำห้อยออกนอกปาก น้ำลายไหลและไม่สามารถใช้ลิ้นได้เลย สุนัขอาจแสดงอาการขยอกหรือขย้อนคล้ายมีอะไรอยู่ในลำคอ ขาอ่อนเปลี้ยทรงตัวไม่ได้ ล้มลงแล้วลุกไม่ได้ อัมพาตขึ้นทั่วตัวอย่างรวดเร็วและตายในที่สุด อาการสุนัขบ้ามีทั้งแบบดุร้ายและแบบซึม"),
tags$h3("อาการแสดงในสัตว์"),
tags$p("สุนัข ที่แสดงอาการแบบดุร้าย จะแสดงอาการในระยะตื่นเต้นให้เห็นเด่นชัดและยาวนาน แต่จะแสดงอาการในระยะอัมพาตสั้นมากที่แสดงอาการแบบซึม จะแสดงอาการในระยะตื่นเต้นสั้นมากจนไม่ทันสังเกตเห็น แต่จะแสดงอาการในระยะอัมพาตเด่นชัด"),
tags$p("แมว อาการคล้ายสุนัขแต่ไม่ชัดเจนและพบอาการแบบดุร้ายมากกว่าแบบซึม สุนัขและแมวที่เป็น โรคพิษสุนัขบ้าจะแสดงอาการป่วยจนกระทั้งตายไม่เกิน 10 วัน"),
tags$p("โค กระบือ อาการจะตื่นเต้น กระสับกระส่าย เดินโซเซ มักมีอาการคล้ายมีอะไรติดคอ น้ำลายไหลยืด ท้องอืดป่อง อัมพาตและตาย"),
tags$h3("อาการที่พบในคน"),
tags$p("สำหรับอาการของคนที่ได้รับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า ส่วนใหญ่มีอาการของสมองอักเสบและไขสันหลังอักเสบ โดยอาการเริ่มแรกของผู้ป่วยจะมีไข้ต่ำๆ เจ็บคอ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ต่อมามีอาการคัน มักเริ่มจากบริเวณแผลที่ถูกกัด แสบๆ ร้อนๆ แล้วลามไปส่วนอื่น บางคนคันมากเกาจนกลายเป็นแผลอักเสบ มีน้ำเหลือง ต่อมาจะกระสับกระส่าย กลัวแสงกลัวลม ไม่ชอบเสียงดัง เพ้อเจ้อ หลุกหลิก กระวนกระวาย หนาวสั่น ตามักเบิกโพลงบ่อยๆ บางครั้งเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโรคทางจิต มีอาการกลืนลำบากโดยเฉพาะอย่างยิ่งของเหลว จะเกิดอาการปวดเกร็งทำให้ไม่อยากดื่มน้ำมีอาการกลัวน้ำ จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โรคกลัวน้ำ ไม่อยากกลืนแม้กระทั่งน้ำลาย จึงทำให้น้ำลายไหล บางคนอาจปวดท้องน้อยและขา คนไข้เพศชายบางรายมีน้ำอสุจิไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว กล้ามเนื้อกระตุก แน่นหน้าอก หายใจไม่ออกหรืออาจชักเกร็ง อัมพาต หมดสติและตายในที่สุด"),
tags$h3("เมื่อถูกกัดทำอย่างไร"),
tags$p("ถ้าถูกสุนัขบ้ากัด หรือสงสัยว่าบ้ากัด ข่วน หรือเลียตามบาดแผล ให้รีบล้างแผลให้เร็วที่สุดด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อ เพราะจะทำให้เชื้อโรคต่างๆ ที่บริเวณนั้นหลุดออกจากแผลไปตามน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า หรือเชื้อโรคอื่นๆ เช็ดแผลให้แห้ง ใส่ยาฆ่าเชื้อ เช่น โพวิโดนไอโอดีน ถ้าไม่มีอาจใช้แอลกอฮอล์ 70% หรือทิงเจอร์ไอโอดีน หรือยาฆ่าเชื้ออื่นๆ แทน"),
tags$p("ต้องจดจำลักษณะและสังเกตอาการสัตว์ที่กัด รวมทั้งติดตามสืบหาเจ้าของเพื่อซักถามประวัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษ สุนัขบ้า ที่มาของสัตว์และสังเกตอาการสัตว์ที่กัด 10 วัน (สุนัขคอกเดียวกัน พันธุ์เดียวกัน สีเดียวกัน ลักษณะคล้ายคลึงกัน อาจจำผิดตัวได้)"),
tags$p("ไปพบแพทย์เพื่อรับการป้องกันรักษาที่ถูกต้อง ถ้ามีความเสี่ยงต่อโรคพิษสุนัขบ้า แพทย์จะฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้"),
tags$h3("วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในปัจจุบัน"),
tags$p("วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าที่ใช้ฉีดคนในปัจจุบันไม่ต้องฉีดรอบสะดือทุกวันเหมือนแต่ก่อนแล้ว ฉีดเพียง 4 – 5 เข็ม ฉีดได้ทั้งในเด็กและสตรีมีครรภ์"),
tags$div(class="center",
tags$img(class="logo",
src="image/logo-MU.jpg"
,alt="mahidol"),
tags$img(class="logo",
src="image/MPH.jpg"
,alt="mahidol"),
tags$img(class="logo",
src="image/Chulalongkorn-University-logo.png"
,alt="mahidol"),
tags$img(class="logo2",
src="image/nstda.png"
,alt="mahidol"),
tags$img(class="logo",
src="image/logo_DLD.jpg"
,alt="mahidol"),
tags$img(class="logo3",
src="image/MORU_FS_RGB.png"
,alt="mahidol"),
),
tags$h3("ผู้รับผิดชอบโครงการและคณะผู้วิจัย"),
tags$ol(type = "1",
tags$li("ผศ.ดร.อนุวัตน์ วิรัชสุดากุล"),
tags$li("ผศ.ดร.ชรินทร์ โหมดชัง"),
tags$li("รศ.ดร.อรุณรักษ์ คูเปอร์ มีใย"),
tags$li("รศ.ดร.วิริชดา ปานงาม"),
tags$li("ผศ.ดร.ศรินทร์ สุวรรณภักดี"),
tags$li("ดร.วีรพงษ์ ธนพงศ์ธรรม"),
tags$li("ดร.ศิษฎ์ เปรมัษเฐียร"),
),
),
tabPanel("Mathematical model",
tags$h2("Mathematical model"),
tags$h3("Age structure model"),
tags$div(class="center",
tags$img(class="modelimage", src="image/Model.png"
,alt="model"),
),
tags$h3("Dog dynamics model"),
tags$div(class="center",
tags$img(
src="image/DogDynamicsModel.png"
,alt="Dog Dynamics Model"),
),
tags$h3("Dog sterilization model"),
tags$div(
tags$img(
src="image/DogDynamicsModel.png"
,alt="model"),
),
),
tabPanel("Demography",
source("./www/PopInput.R", local = TRUE)$value,
),
tabPanel("Sterilization",
source("./www/SterInput.R", local = TRUE)$value,
),
tabPanel("Vaccination",
source("./www/VacInput.R", local = TRUE)$value,
),
tabPanel("Model predictions",
actionButton("run","Run"),
tabsetPanel(
tabPanel("Dog population",
use_busy_spinner(spin = "fading-circle"),
tags$div(class = "col-sm-6",
tags$h1("Indoor"),
# withSpinner(plotlyOutput("PopIndoorPlot"), type = 5, color = "#0dc5c1", size = 2)
plotOutput("PopIndoorPlot")
),
tags$div(class = "col-sm-6",
tags$h1("Outdoor"),
# withSpinner(plotlyOutput("PopOutdoorPlot"), type = 5, color = "#0dc5c1", size = 2)
plotOutput("PopOutdoorPlot")
),
tags$div(class = "col-sm-6",
tags$h1("Stray"),
# withSpinner(plotlyOutput("PopStrayPlot"), type = 5, color = "#0dc5c1", size = 2)
plotOutput("PopStrayPlot")
),
tags$div(class = "col-sm-6",
tags$h1("TotalPop"),
# withSpinner(plotlyOutput("TotalPop"), type = 5, color = "#0dc5c1", size = 2)
plotOutput("TotalPop")
),
# tags$div(class = "col-sm-12",
# DT::dataTableOutput("table"),
# )
),
tabPanel("Sterilization",
tags$h1("Indoor dog Sterilization"),
plotlyOutput("SterilizationPlot"),
tags$h1("Outdoor dog Sterilization"),
plotlyOutput("SterilizationPlot2"),
tags$h1("Stray dog Sterilization"),
plotlyOutput("SterilizationPlot3"),
),
tabPanel("Vaccination",
plotlyOutput("")
),
tabPanel("Rabies")
),
),
tabPanel("Cost",
tabsetPanel(
tabPanel("Interventions"),
tabPanel("Cost of dogs"),
tabPanel("Cost of biting"),
tabPanel("Burdens")
),),
tabPanel("Economic analysis",
tags$h1("Scenario comparison")
)
),
))