[TH] Translate Collections (elixirschool#1194)

* Translate collections section into Thai

* Use version from original lesson updates to translation

th/lessons/basics/collections.md

@@ -0,0 +1,180 @@
+---
+version: 1.2.1
+title: กลุ่มข้อมูล (Collections)
+---
+
+List, tuple, keyword list, และ map
+
+{% include toc.html %}
+
+## Lists
+
+list คือ collection พื้นฐานที่อาจประกอบไปด้วยข้อมูลหลาย type นอกจากนี้ list ยังสามารถเก็บข้อมูลที่ซ้ำกันได้อีกด้วย
+
+```elixir
+iex> [3.14, :pie, "Apple"]
+[3.14, :pie, "Apple"]
+```
+
+Elixir พัฒนา list collection เป็นแบบ linked list หมายความว่า complexity ในการเข้าถึงข้อมูลคือ `O(n)` ด้วยเหตุผลนี้เอง การเพิ่มข้อมูลต่อเข้าไปตอนต้นของ list จะเร็วกว่าการเพิ่มเข้าไปต่อด้านท้าย
+
+```elixir
+iex> list = [3.14, :pie, "Apple"]
+[3.14, :pie, "Apple"]
+iex> ["π"] ++ list
+["π", 3.14, :pie, "Apple"]
+iex> list ++ ["Cherry"]
+[3.14, :pie, "Apple", "Cherry"]
+```
+
+### List Concatenation
+
+list concatenation นั้น ใช้ operator `++/2`
+
+```elixir
+iex> [1, 2] ++ [3, 4, 1]
+[1, 2, 3, 4, 1]
+```
+
+หมายเหตุเกี่ยวกับ `++/2` ที่ใช้ด้านบน ใน Elixir (และภาษาอย่าง Erlang ที่ภาษา Elixir ต่อยอดมา) function หรือ operator มี 2 ส่วน คือ ชื่อที่ตั้งให้ (ในที่นี้คือ `++`) และ _arity_
+
+arity คือส่วนที่เป็น core เมื่อเราพูดถึง Elixir (และ Erlang) มันคือจำนวนของ argument ที่ function นั้นรับ (ในที่นี้คือ 2) arity และชื่อที่ตั้งให้รวมกันกับเครื่องหมาย / เราจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้นในภายหลัง ตอนนี้ให้พอเข้าใจความหมายของเครื่องหมายก็พอ
+
+### List Subtraction
+
+การนำ list มาลบกัน ทำได้โดยใช้ `--/2` และเราก็สามารถลบค่าที่ไม่มีอยู่ใน list ตั้งต้นได้
+
+```elixir
+iex> ["foo", :bar, 42] -- [42, "bar"]
+["foo", :bar]
+```
+
+สังเกตค่าที่ซ้ำกันใน list สำหรับทุกๆ ค่าใน list ทางขวา ตอนลบ ตัวแรกที่ปรากฏใน list ทางซ้ายมือจะถูกลบออก
+
+```elixir
+iex> [1,2,2,3,2,3] -- [1,2,3,2]
+[2, 3]
+```
+
+**หมายเหตุ** list subtraction ใช้ [strict comparison](../basics/#การเปรียบเทียบ) เพื่อ match ค่าต่างๆ
+
+### Head / Tail
+
+ตอนที่เราใช้ list เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะทำงานกับส่วน head กับส่วน tail ของ list โดยส่วน head ของ list คือ element ตัวแรก ในขณะที่ส่วน tail ของ list ก็คือ element ที่เหลือใน list นั้น ภาษา Elixir มี 2 function ที่มาช่วยตรงส่วนเหล่านี้คือ `hd` และ `tl`
+
+```elixir
+iex> hd [3.14, :pie, "Apple"]
+3.14
+iex> tl [3.14, :pie, "Apple"]
+[:pie, "Apple"]
+```
+
+นอกเหนือจาก function ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว เราสามารถใช้ [pattern matching](../pattern-matching/) และ cons operator `|` เพื่อแยกส่วน head กับ tail ของ list ออกจากกัน เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่อง pattern นี้ในบทเรียนต่อๆ ไป
+
+```elixir
+iex> [head | tail] = [3.14, :pie, "Apple"]
+[3.14, :pie, "Apple"]
+iex> head
+3.14
+iex> tail
+[:pie, "Apple"]
+```
+
+## Tuples
+
+tuple คล้ายกับ list แต่ข้อมูลใน tuple จะถูกเก็บติดๆ กันในหน่วยความจำ ทำให้การเข้าถึงข้อมูลเร็วกว่าแต่ก็จะเสียทรัพยากรไปในการแก้ไขข้อมูลค่อนข้างเยอะ เนื่องจากจะต้องคัดลอก tuple ใหม่ทั้งหมดเข้าไปในหน่วยความจำ
+
+tuple ประกาศได้ด้วยเครื่องหมายปีกกา
+
+```elixir
+iex> {3.14, :pie, "Apple"}
+{3.14, :pie, "Apple"}
+```
+
+เป็นเรื่องปกติสำหรับ tuple ที่จะถูกใช้ในส่วนการ return ของ function ประโยชน์ของการใช้งานในลักษณะนี้จะถูกอธิบายให้ชัดเจนมากขึ้นตอนที่เราไปถึงบท [pattern matching](../pattern-matching/)
+
+```elixir
+iex> File.read("path/to/existing/file")
+{:ok, "... contents ..."}
+iex> File.read("path/to/unknown/file")
+{:error, :enoent}
+```
+
+## Keyword lists
+
+keyword list และ map คือ associative collection ของภาษา Elixir ซึ่งใน Elixir keyword list คือ list พิเศษที่ประกอบไปด้วย tuple ที่มี 2 element โดย element ตัวแรกคือ atom
+
+keyword list นั้นมี performance แบบเดียวกับ list
+
+```elixir
+iex> [foo: "bar", hello: "world"]
+[foo: "bar", hello: "world"]
+iex> [{:foo, "bar"}, {:hello, "world"}]
+[foo: "bar", hello: "world"]
+```
+
+3 ลักษณะพิเศษที่สำคัญของ keyword list คือ
+
++ key คือ atom
++ key ถูกเรียงลำดับ
++ key อาจจะซ้ำได้
+
+ด้วยเหตุผลเหล่านี้ keyword list จึงถูกนิยมใช้สำหรับส่ง option เข้าไปที่ function
+
+## Maps
+
+ใน Elixir นั้น map คือการเก็บข้อมูลแบบ "go-to" key-value ซึ่งจะไม่เหมือนกับ keyword list คือ key สามารถเป็น type อะไรก็ได้ และไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับกัน
+
+เราสามารถประกาศ map ได้โดยใช้ syntax `%{}`
+
+```elixir
+iex> map = %{:foo => "bar", "hello" => :world}
+%{:foo => "bar", "hello" => :world}
+iex> map[:foo]
+"bar"
+iex> map["hello"]
+:world
+```
+
+ใน ​Elixir เวอร์ชั่น 1.2 ตัวแปรสามารถถูกใช้เป็น key ของ map ได้
+
+```elixir
+iex> key = "hello"
+"hello"
+iex> %{key => "world"}
+%{"hello" => "world"}
+```
+
+ถ้ามีการเพิ่มค่าซ้ำเข้าไปใน map แล้ว map จะนำค่านั้นไปทับค่าที่มีอยู่ก่อนหน้า
+
+```elixir
+iex> %{:foo => "bar", :foo => "hello world"}
+%{foo: "hello world"}
+```
+
+อย่างที่เราเห็นจากผลลัพธ์ข้างต้น จะมี syntax พิเศษสำหรับ map ที่มีแต่ key ที่เป็น atom
+
+```elixir
+iex> %{foo: "bar", hello: "world"}
+%{foo: "bar", hello: "world"}
+iex> %{foo: "bar", hello: "world"} == %{:foo => "bar", :hello => "world"}
+true
+```
+
+นอกเหนือจากนี้ยังมี syntax พิเศษสำหรับการเข้าถึง key ที่เป็น atom อีกด้วย
+
+```elixir
+iex> map = %{foo: "bar", hello: "world"}
+%{foo: "bar", hello: "world"}
+iex> map.hello
+"world"
+```
+
+คุณสมบัติที่น่าสนใจอีกอย่างของ map คือ map มี syntax ของตัวเองสำหรับการอัพเดต
+
+```elixir
+iex> map = %{foo: "bar", hello: "world"}
+%{foo: "bar", hello: "world"}
+iex> %{map | foo: "baz"}
+%{foo: "baz", hello: "world"}
+```